วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2555


IPv6เหนือกว่าIPv4 อย่างไร

IPv6 เป็นโปรโตคอลที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย IETF (The Internet Engineering Task Force) เพื่อให้สามารถมีไอพีแอดเดรส ได้เพียงพอต่อความ ต้องการในอนาคต รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพ และความปลอดภัย (security) ในการใช้งานให้มีมากยิ่งขึ้น IPv6 เริ่มมีการใช้งานที่ประเทศญี่ปุ่นและ เกาหลี ทั้งนี้ เพราะทั้งสองประเทศเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มมีปัญหาการขาดแคลนไอพีแอดเดรส ต่อมาประเทศจีนและทางฝั่งยุโรปก็เริ่มมีการใช้งาน IPv6 ส่วนสหรัฐอเมริกานั้นยังไม่ประสบปัญหาการขาดแคลนไอพีแอดเดรสจึงยังคงใช้ IPv4 อยู่ ขณะที่ประเทศไทยนั้นยังอยู่ในช่วงการทดสอบการใช้ งานซึ่งมีบริษัทที่ร่วมทดสอบได้แก่ CAT, AsiaInfonet, CS-Loxinfo, JI-Net, Samart และ Internet Thailand 

เดิม

IPv4 นั้นมีขนาดไอพีแอดเดรส 32 บิต ซึ่งเท่ากับว่าจะมีจำนวนหมายเลขไอพีแอดเดรสเท่ากับ 232 หมายเลข (ประมาณ 4.3×109 หมายเลข) โดยหมายเลขไอพีแอดเดรสนั้นจะถูกระบุด้วยเลขฐานสิบ เช่น 192.168.2.100 ส่วน IPv6 สามารถเพิ่มจำนวนบิตของไอพีแอดเดรสได้มาก ขึ้นเป็น 128 บิต นั่นหมายความว่าจะมีจำนวนไอพีแอดเดรสได้มากถึง 2128 หมายเลข (ประมาณ 3.4×1032 หมายเลข) โดยจะถูกระบุด้วยเลขฐานสิบหก แทน ซึ่งจากการเพิ่มจำนวนบิตใน IPv6 ทำให้จำนวนไอพีแอดเดรสที่เพียงพออย่างแน่นอน

ตาราง IPv6เหนือกว่าIPv4 อย่างไร
คุณสมบัติ
ข้อดีของ IPv6

ความสำคัญ
1. การกำหนดค่าแอดเดรส(Addressing)
IPv6 นั้นมีจำนวนไอพีแอดเดรสที่มากกว่า IPv4 ถึง8×1028 เท่า
การมีจำนวนไอพีแอดเดรสเพิ่มขึ้นทำให้สามารถเพิ่มอุปกรณ์ สื่อสารเพื่อขยายขนาดของเครือข่ายได้ และตอบสนองการใช้ งานได้ดียิ่งขึ้น
2. การปรับแต่งระบบ
(Configuration)


IPv6 สนับสนุนการปรับแต่งระบบให้เป็นแบบ อัตโนมัติ หรือ automatically configuration ซึ่งไม่ จำเป็นต้องกำหนดไอพีแอดเดรสตายตัว (Static Address) หรือ การกำหนดแบบครั้งคราว (DHCP)แบบ IPv4

การใช้งาน automatically configuration นั้นมีความง่าย เพราะไม่ต้องปรับแบบ manual ซึ่งมีความยุ่งยากในการดูแล จัดการเครือข่าย

3. การรับส่งข้อมูล
(Data Delivery)

IPv6 มีการปรับ Header ให้มีขนาดเท่ากันทำให้ง่าย ต่อการประมาลผล นอกจากนี้ IPv6 ยังสามารถ จัดลำดับความสำคัญ (priority) ของ traffic เพื่อกำหนดคุณภาพของการให้บริการ (QoS)

ในการส่งข้อมูลมัลติมีเดียนั้น ความเร็วและความถูกต้องของ ข้อมูลที่ส่งเป็นสิ่งที่สำคัญ และหากมีการจัด priority ของ ข้อมูลยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานและการให้บริการดี ยิ่งขึ้น

4. เส้นทาง
(Routing)

IPv6 มีโครงสร้างการหาเส้นทางแบบลำดับชั้น ทำให้ การส่ง packet จาก segment หนึ่งไปยังอีกsegment หนึ่งเป็นไปโดยง่าย

IPv4 มีการจัดลำดับเส้นทางเพียงบางส่วนเท่านั้น ทำให้ ตารางเส้นทาง (routing table) มีขนาดยาวและใหญ่มาก ซึ่ง แตกต่างจาก IPv6ที่มีขนาดตารางเส้นทางเล็กเนื่องจากoverhead ที่ใช้ประมวลผลที่ router มีขนาดน้อยกว่า

5. ความปลอดภัย
 (Security)
ใน IPv4 มาตรฐานความปลอดภัยของไอพี (IP Security Standard : IPSec) ถูกกำหนดให้เป็นเพียง แค่ตัวเลือก ไม่จำเป็นต้องใช้ในเครือข่ายก็ได้ แต่ในIPv6 IPSec ถูกกำหนดตามมาตรฐาน ให้เป็นสิ่งที่ต้องใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย

การมีมาตรฐานความปลอดภัยที่แน่นอนและเหมือนกัน ทำให้ การใช้งานระบบอินเตอร์เนตเป็นไปโดยง่าย และมีความปลอดภัยของข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น
]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น